ประวิทย์ อาสานอก สารวัตรสอบสวน สภ. กระทุ่มแบน ไปดำเนินคดีในข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาห...
แอปเปิ้ลสีชมพู - แอปเปิ้ลสีนี้มีปริมาณวิตามินซีถึง 1 ใน 4 ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน - ช่วยทำให้ผนังของหลอดเลือดฝอยแข็งแรงขึ้น - ลดอาการเลือดออกตามไรฟันได้เป็นอย่างดี ถึงแอปเปิ้ลจะมีหลายสีมากมายเพียงใดก็ตาม แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้แล้วนั้น ต่อให้เป็นสีอะไร ก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น อย่าลืมทานผลไม้กันทุกวันด้วยนะคะ ที่มาข้อมูล: เว็บ thaihealth (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ)
ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก 2. ) ช่วยลอความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง 3. ) ช่วยบำรุงหัวใจ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ 4. ) ลดคอเรสเตอรอล 5. ) ควบคุมความดัน 6. ) ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด 7. ) ช่วยบำรุงสุขภาพผิวให้ดี นุ่ม ชุ่มชื้น 8. ) ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและชะลอความแก่ 9. ) ช่วยเพิ่มการดูดซึมของวิตามินซี 10. ) ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง 11. ) ลดอาการอักเสบ ลดไข้ 12. ) ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน 12. ) ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน
ลดอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน สำหรับหญิงสาวที่กินแอปเปิ้ลอย่างน้อย 1 ผลต่อวัน จะลดอัตราความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 (คือภาวะที่มีน้ำตาลในเลือดสูงซึ่งแพทย์เรียกกันว่า Hyperglycemia) ลงได้ถึง 28% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่กินแอเปิ้ลเลย ซึ่งแอปเปิ้ลช่วยทำให้น้ำตาลในเลือดคงที่ ไม่เกิดภาวะ "น้ำตาลในเลือดแกว่ง" ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ 5. ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอลในเลือด เพราะเจ้าไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ในแอปเปิ้ลนั้น ช่วยลดไขมันในลำไส้ ทำให้ระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดต่ำลง ทำให้สุขภาพดีขึ้น 6. ช่วยบำรุงให้หัวใจแข็งแรง มีงานวิจัยเกี่ยวกับระบบร่างกายที่พบว่า แอปเปิ้ลที่มีไฟเบอร์ละลายน้ำสูง ช่วยชะลอภาวะการเกิดคลอเลสเตอรอลเกาะหลอดเลือดแดงในหัวใจได้ เพราะสารฟีนอลในเปลือกแอปเปิ้ลนั้น ช่วยป้องกันคลอเลสเตอรอลที่จะเข้าไปในร่างกาย ไม่ทำให้ผนังหนอดเลือดแข็งตัว เพราะถ้าเกิดการสะสมไขมันที่เกาะตัวในหลอดเลือด จะทำให้เลือดสูบฉีดเข้าสู่หัวใจน้อยลง ทำให้เกิดเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจได้ค่ะ 7. ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย/ท้องผูกได้ สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย เวลาเข้าห้องน้ำแต่ละทีต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าชั่วโมงกว่าจะโล่ง การทานแอปเปิ้ลที่มีไฟเบอร์สูงช่วยได้ เพราะไฟเบอร์ที่ยู่ในแอปเปิ้ลช่วยดึงน้ำออกจากปลายลำไส้ใหญ่ ทำให้ขับถ่ายง่าย คล่อง สะดวกสุด ๆ แต่ถ้าหากใครที่ท้องเสีย แอปเปิ้ลจะช่วยซึมซับของเหลวส่วนเกิน ทำให้ถ่ายท้องน้อยลง 8.
ป้องกันการเกิด ' นิ่วในถุงน้ำดี ' ได้ ' นิ่วในถุงน้ำดี ( Gallstones) ' เป็นโรคที่เกิดขึ้นเมื่อมีคอเลสเตอรอลสะสมในถุงน้ำดีของเรามากเกินไป ไม่สามารถคงเป็นของเหลวไว้ได้ จึงก่อตัวเป็นนิ่ว ซึ่งมักเกิดขึ้นในคนที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์เยอะมากๆ จนเข้าข่ายเป็นโรค ( obese) นั่นเองค่า หากใครมีความเสี่ยง คุณหมอจะแนะนำให้กินแอปเปิ้ลแดง ซึ่งมีไฟเบอร์สูงเพื่อป้องกันโรคนิ่วในถุงน้ำดี เพื่อควบคุมน้ำหนักและระดับคอเลสเตอรอลให้ปกติค่ะ * 5. ขจัดโรค ' ท้องร่วง ' และโรค ' ท้องผูก ' * สาวๆ หลายคนชอบกินขนม ของหวานๆ มันๆ ทอดๆ ทำให้เกิดปัญหาในการขับถ่าย ท้องผูก หรือกินอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้ท้องร่วง ท้องเสียได้ การกินแอปเปิ้ลแดงช่วยได้ค่ะ ไฟเบอร์ในผลไม้ชนิดนี้จะช่วยดันน้ำออกจากปลายลำไส้ใหญ่ เพื่อให้ของเสียขับถ่ายออกมาได้อย่างสะดวก เหมาะกับสาวๆ ที่ท้องผูก และยังช่วยดูดซับน้ำส่วนเกินจากอุจจาระ จึงทำให้เว้นระยะขับถ่ายได้นานขึ้น สำหรับสาวๆ ที่ท้องเสียด้วยค่ะ * 6. ป้องกันการเกิดภาวะ ' ต้อกระจก ' * ใครจะรู้ว่า การกินแอปเปิ้ลแดงช่วยป้องกันภาวะต้อกระจกได้ด้วยนะคะ ภาวะนี้เป็นโรคที่เลนส์แก้วตาเสื่อมสภาพจนเกิดความขุ่นมัว บดบังแสงที่จะเข้าไปในตา แสงส่งผ่านไปยังประสาทตาไม่เต็มที่ ทำให้มองเห็นไม่ชัดและขุ่นมัวค่ะ มีงานวิจัยบ่งชี้ว่า คนที่กินผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น แอปเปิ้ล จะมีความเสี่ยงเป็นภาวะต้อกระจกน้อยลงถึง 10-15% เลยทีเดียว * 7.
ทำให้ฟันแข็งแรงขึ้น ฟันขาวขึ้น การกินแอปเปิ้ลแดง ช่วยทำให้สุขภาพฟันดีขึ้นได้ค่ะ! อาจจะไม่สามารถนำมาขัดฟัน แทนการแปรงฟันได้แบบ 100% แต่การกัด และเคี้ยวผลแอปเปิ้ลจะช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำลายในปากค่ะ อีกทั้งยังลดปัญหาฟันผุ เพราะช่วยลดปริมาณแบคทีเรียในช่องปากได้ด้วยค่ะ รู้แบบนี้แล้ว ใครที่อยากฟันขาว สุขภาพดี ก็อย่าลืมกินแอปเปิ้ลแดงกันนะ 2. ป้องกันภาวะ ' อัลไซเมอร์ ' ได้ มีงานวิจัย ( กับหนูทดลอง) บ่งชี้ว่า การดื่มน้ำแอปเปิ้ลช่วยป้องกันไม่ให้สาวๆ เป็นโรคอัลไซเมอร์ หรือภาวะความจำเสื่อมได้ค่ะ อีกทั้งยังช่วยป้องกันผลกระทบจากเซลล์สมองเสื่อมในผู้สูงอายุอีกด้วยค่ะ หนูในห้องทดลอง กลุ่มที่ให้อาหารเป็นแอปเปิ้ลแดง ทำให้สารสื่อประสาทสูงขึ้น และมีความสามารถออกจากเขาวงกต ( maze test) ได้มากกว่าหนูทดลองกลุ่มที่กินอาหารปกติค่ะ 3. ป้องกันโรค ' พาร์กินสัน ' ได้ มีงานวิจัยชึ้ว่า คนที่กินผลไม้อย่างแอปเปิ้ลแดง หรืออาหารที่มีไฟเบอร์สูงจะช่วยป้องกันโรคพาร์กินสันได้ค่ะ โรคพาร์กินสัน คือโรคที่เซลล์ประสาทในสมองที่ผลิตสาร ' โดปามีน ' เสื่อมสภาพอย่างช้าๆ จึงทำให้เกิดภาวะอัมพาตค่ะ หรือที่คนโบราณเรียกว่า ' สันนิบาตลูกนก ' นั่นเองค่ะ นักวิจัยพบว่า แอปเปิ้ลแดงที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยป้องกันโรคนี้ได้ค่ะ 4.
แอป แอป แอปเปิ้ล! มีประโยชน์มากมาย แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ ยอดนิยมชนิดหนึ่งของโลก ต้นแอปเปิ้ลสูงประมาณ 5-12 เมตร ผลมีเปลือกสีแดง ชมพู เขียว และเหลืองตามสายพันธุ์ เนื้อในเป็นเนื้อทรายละเอียด สีขาวนวล คุณค่าโภชนาการ เมื่อกินโดยไม่ปอกเปลือก จะมีพลังงาน 80 แคลอรี วิตามินบี 6 เท่ากับ 0. 1 มิลลิกรัม วิตามินซี 7. 9 มิลลิกรัม เหล็ก 0. 2 มิลลิกรัม ทองแดง 0. 1 มิลลิกรัม และโพแทสเซียม 158.
แอ๊ปเปิ้ลแดง มีจุดเด่นที่ดีต่อสุขภาพคือมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์มากที่สุด และยังมี อิลาสตินและคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพผิวด้วย 2. แอ๊ปเปิ้ลสีชมพู มีสารฟิโนลิกมากที่สุดในบรรดาแอ๊ปเปิ้ลด้วยกัน ซึ่งสารนี้ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและชะลอความแก่ นอกจากนั้นยังมีฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซี ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดไข้ รวมทั้งช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย 3. แอ๊ปเปิ้ลสีเขียว มีรสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ดี เพราะการกิน แอ๊ปเปิ้ลสีเขียวนอกจากจะได้รับน้ำตาลน้อยแล้ว ยังมีอิลาสตินและคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิว แข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดี 4. แอ๊ปเปิ้ลสีเหลือง มีประโยชน์ต่างจากสีอื่นๆ โดยมีสารเควอร์ซิตินที่ช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และต้อกระจก
โพสท์โดย Marcus เนื่องจากการกินผลไม้บางอย่างเช่นแอปเปิ้ลต้องกินทั้งเปลือกจึงจะได้ประโยชน์สูงสุดแต่ส่วนใหญ่แอปเปิ้ลที่ขายในตลาดมักมีการแว้กซ์ (Waxing) เคลือบเพื่อให้สีสวยคงความสดยาวนาน ทำให้หลายคนไม่กล้ากินแอปเปิลทั้งเปลือก เพราะเกรงไม่ปลอดภัย วิธีการล้างแว้กซ์จากเปลือกผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล 1. เหยาะเกลือทะเลลงไปในน้ำที่เตรียมล้าง 1 ถุง 2. นำผลไม้แช่ลงไปอย่างน้อย 30 นาที 3. นำฟองน้ำถูที่เปลือกและส่วนที่มีเศษดินออกให้หมด โดยเฉพาะแอปเปิลเขียวจะมีแว้กซ์เคลือบมากเป็นพิเศษ ต้องขัดออกให้หมด เกลือทำให้แว้กซ์ล้างออกง่ายขึ้น รวมถึงยางเหนียวๆจากสติกเกอร์ 4. ควรล้างอย่างน้อย 3 น้ำ เพื่อให้แน่ใจว่าสะอาดจริง ๆ ถึงในทางวิทยาศาสตร์จะบอกกับเราว่าแว้กซ์ไม่มีอันตราย ปริมาณเพียงน้อยนิดที่กินไปไม่สร้างโรคร้ายใดๆ แต่ทุกวันนี้มีโรคประหลาดๆ มากขึ้น และอย่าลืมเรื่อง "การสะสม" ในตับ-ไต ซึ่งยังไม่เคยมีการเผยแพร่ผลวิจัยเรื่องนี้อย่างชัดเจนและอีกประการหนึ่งคือ เหตุผลทางการค้าของประเทศที่เจริญแล้วมักไม่รับผิดชอบผู้บริโภคเท่าที่ควร ดังที่เราได้รับข่าวบางอย่างเช่นเรื่องน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ที่มีผู้นำมาเปิดโปงในภายหลังจากหลอกลวงผู้บริโภคไปแล้ว 20-30 ปี เป็นต้น เราจึงไม่ควรละเลยเรื่องสารเคมีในของกินทุกอย่าง ที่ใส่ปากเราเข้าไป ที่มา: ชีวอโรคยา
1 มิลลิกรัม วิตามินซี 7. 9 มิลลิกรัม เหล็ก 0. 2 มิลลิกรัม ทองแดง 0. 1 มิลลิกรัม และโพแทสเซียม 158. 7 มิลลิกรัม หากปอกเปลือกปริมาณสารสำคัญต่างๆ ก็จะลดลงไปจากที่กล่าวไว้ แอ๊ปเปิ้ลมีสารสำคัญคือ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ คือ เพคติน มีกรด 2 ชนิด คือ กรดมาลิคและกรดทาร์ทาริก ช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีนและไขมัน นอกจากนั้นยังมีการกล่าวถึงสรรพคุณ บำรุงหัวใจ ลดคลอเลสเตอรอล ลดความดัน ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ และฆ่าเชื้อไวรัส บทความในวารสารการแพทย์สหรัฐอเมริกา พ. ศ.